
เมียหลวง เมียน้อย คนนอกใจ และมือที่สาม แค่เรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ
เมียหลวง ผู้หญิงที่สุดแสนลำเค็ญ อดทนกับชีวิตคู่แย่ๆเพื่อ รั ก ษาชื่อเสียงและคำว่า ลูกต้องมีพ่อ หรือจะเป็นผู้หญิงเก่งสุดสตรอง ยอมเดินออกจากชีวิตคู่แบบสวยๆ แล้วสร้างชีวิตใหม่กับใครอีกคน น่าคิด
เมียน้อย หญิงสาวสุดจี๊ด เอาแต่ใจไร้เหตุผล ทำได้ทุก อ ย่ า งเพื่อแย่งสามีชาวบ้าน แบบในละคร หรือเป็นแค่เพียงสาวน้อยใสซื่อที่ตกเป็นเหยื่อคารมของชายเจ้าชู้
มือที่สาม เค้าคือใคร อยู่ที่ไหน ยินยอมหรือไม่ตั้งใจ ทำไมจึงเกิดมือที่สามขึ้นทั้งๆที่ชีวิตคู่ก็ดี๊ดี และคุณเองก็ไม่เคยคิดนอกใจ
เจ้าชู้ คือ ธรรมชาติของผู้ชาย หรือแค่ความอ่อนไหวต่อ เ พ ศ ตรงข้าม
ผู้หญิงหลายคนหรืออาจเป็นส่วนใหญ่ที่มีความคาดหวังในเรื่อง ของความรัก และการแต่งงานไว้ว่า จะเป็นการแต่งงานครั้งเดียว ในชีวิต มีครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น พร้อมสามีที่ดี เอาอกเอาใจ ดูแลทุกสิ่ง อ ย่ า งตลอดไป แต่แล้วไม่นานนัก ความฝันของพวกเธอก็ต้องพังทลายลงไป
พร้อมกับได้ชื่อเล่นที่ไม่ได้ตั้งขึ้นเองมาอีกคำคือ “เมียหลวง” จนสุดท้ายก็ต้องแยกย้ายกันไป ไม่เป็น อ ย่ า งที่คิดไว้ตั้งแต่ต้น ถึงขนาดว่าบางคู่ แต่งงานอยู่กินด้วยกันด้วยความสุขมา อ ย่ า ง ย า วนาน แต่แล้วก็ต้องเลิกรากันไป อ ย่ า งไม่คาดคิดจากมือที่สาม เรื่องแบบนี้เราคงไม่สามารถ ฟั น ธง ลงไปได้ว่า ใครเป็นฝ่ายผิด เพราะต่างฝ่ายล้วนมีส่วน ในการทำลายชีวิตคู่ด้วยกันทั้งคู่ ทีนี้เรามาดูมุมมองของ ทั้งสองฝ่าย กันบ้างว่า มันแตกต่างกัน อ ย่ า งไร
คิดว่าผู้หญิงเกือบทุกคน คงไม่อ ย า ก ให้ใครๆมาเรียกตัวเองว่า เมียหลวง เพราะนั่นมันหมายถึงว่า สามีของตนได้ไปมีเมียน้อย เป็นตัวเป็นตน ซะแล้วนั่นเอง แต่จะทำไงได้ ก็ตัวคุณหรือเปล่าที่เป็นคนผลักสามี ออกจากประตูบ้านไปเอง หรือจะเป็นเพราะสามีจอมเจ้าชู้ของคุณ ที่ไม่รู้จักพอ
ในความเป็นจริงแล้วเมียหลวงทั้งหลาย ก็อาจไม่ได้สดสวยน่ารัก เก่งกาจ และบอบบางน่าทะนุถนอมไปซะทุกคน เหมือนกับในละคร และเมียน้อยก็คงไม่ได้ชั่วช้าหรือว่าสวยสง่า น่าพามาเป็นแม่ของลูกแต่ อ ย่ า งใด แต่ทำไมเหตุการณ์ของการการนอกใจ ทั้งจากมือที่สาม หรือจากตัวของคนทั้งสองเอง จึงเกิดขึ้นอยู่ อ ย่ า งสม่ำเสมอในสังคมมา อ ย่ า งช้านาน
การแต่งงานที่อาจไม่ใช่ทุกสิ่งที่ทุกคนฝันหา และมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา เมียหลวง เมียน้อยและมือที่สาม กับหลากหลายเหตุผล ของคนสองคนที่ตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตคู่ โดยปราศจากความรัก และความผูกพันธ์ใดๆ ซึ่งนั่นจึงตามมาด้วยปัญหา และความ ย า ก ลำบากในการดำเนินชีวิตคู่ อ ย่ า งคาดไม่ถึง
การแต่งงานจากการพลาดพลั้ง รักสนุก ตามมาด้วยการตั้งครรภ์ และมีลูก จนกระทั่งจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน อ ย่ า ง ถาวรด้วยการแต่งงาน แบบนี้ก็คงคิดได้ว่าความสัมพันธ์ หรือความรักนั้น ยังไม่ทันจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำไป แต่สุดท้าย ก็ต้องมาแบกภาระ ความเป็นพ่อแม่ อ ย่ า งไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งแน่นอนว่าทั้งคู่ยังไม่มีความพร้อมที่จะรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ นี้ได้ สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป แล้วทิ้งลูกไว้เป็นปัญหาของสังคม
การแต่งงานที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และการยกระดับฐานะ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และสร้างความมั่งคั่งของสองตระกูล หรือด้วยหน้าที่การงานที่เกี่ยวเนื่องกัน สามารถเกื้อกูลผลประโยชน์ร่วมกัน เช่นด้านเศรษกิจ หรือการเมือง หรืออาจเป็นไปเพื่อการผลิตทา ย า ท สืบวงศ์ตระกูล ลักษณะนี้ ก็แน่นอนว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับความรักหรือความผูกพันธ์ ผู้หญิงมีหน้าที่เพียง ผ ลิ ต ลูก ให้เท่านั้น ส่วนฝ่ายชายก็ยังสามารถใช้ชีวิตนอกบ้าน กับการเที่ยวเตร่หาความสนุกตื่นเต้น กับหญิงอื่นต่อไปได้เรื่อยๆ โดยเก็บแม่ ของลูกขึ้นหิ้งเอาไว้ที่บ้าน
การแต่งงานเพื่อตนเองโดยแท้ หลายคู่คิดเพียงว่า การได้แต่งงาน กับคนที่มีฐานะดีร่ำรวย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รักกันมากมายอะไร แต่ก็พ ย า ย า มทุกวิถีทางที่จะได้แต่งกับคนรวยว่า อ ย่ า งนั้น โดยต่างฝ่ายต่างยินยอม และมีสัญญาใจ หรือข้อตกลงกันตั้งแต่แรก เช่นว่า
ชาย : “เธอห้ามเข้ามาก้าวก่าย ชีวิตส่วนตัว ของชั้น เพราะเราต่างมีโลกส่วนตัว”
หญิง : “ จะไปไหนก็ไป ไม่ได้ว่าอะไร ทำอะไรก็เชิญตามสบาย เลี้ยงดูชั้นให้ดีก็พอ ชั้นขอแค่นั้น “
ดูเหมือนจะทำข้อตกลงกันได้ดี แต่ว่านี่ คืออีกหนึ่งตัว อ ย่ า ง ของการแต่งงาน ที่ไม่ได้มีพื้นฐาน จากความรัก หรือการอ ย า กใช้ชีวิตร่วมกัน สุดท้ายในวันหนึ่งก็คงไม่พ้นเลิกรา จากความเบื่อหน่ายจำเจ แล้วหาคนใหม่ ที่รวยกว่า สดกว่า หล่อกว่าสวยกว่า และตื่นเต้นกว่า
มาเข้าเรื่องที่ว่าปัญหาการนอกใจ มันก็แค่เรื่องบังเอิญ หรือว่าตั้งใจกันแน่
นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเรามักจะได้ยินข่าวการเลิกรา ของเหล่าดาราหรือคนดังมาโดยตลอด ทั้งๆที่พวกเค้าเหล่านั้นต่างก็เริ่มต้นชีวิตคู่ ด้วยความสุขสมบูรณ์ มีฐานะความมั่นคง ทั้งสวย และหล่อมาเจอกัน แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป โดยมีคำว่า ”มือที่สาม” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทุกครั้ง แล้วคนธรรมดาทั่วไป อ ย่ า งเราๆท่านล่ะจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
ปัญหามือที่สาม เรียกได้ว่าเกือบทั้งหมด พวกเราจะพุ่งเป้า ไปที่ฝ่ายชายเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดแต่ อ ย่ า งใด แต่ก็ไม่ได้ถูกซะทั้งหมด อ ย่ า งแน่นอน หากฝ่ายหญิงจะพ ย า ย า มสละเวลา เพื่อทบทวนและพิจารณา ด้วยการกลับมาย้อนดูชีวิตประจำวัน ของตัวเองบ้าง ซักนิด อาจทำให้รู้ได้ว่า ตัวเราเองก็มีส่วนอยู่ไม่น้อย ในการพามือที่สามเข้ามาในชีวิตคู่
ปัจจุบันในโลกยุคดิจิตอล ไลฟ์สไตล์ของเราเกือบจะทุกคนอยู่ กับโทรศัพท์มือถือ ไอ แ พ ด หรือ คอมพิวเตอร์ โซเชียลมีเดีย ต่างๆมากมาย ทั้งเฟ ส บุ๊ ค ไล น์ ท วิ ต เ ตอ ร์ อิน ส ตร า แกรม จนมีคนเคยพูดไว้ว่า มือถือคือสิ่งแรกที่หยิบขึ้น และมันคือสิ่งสุดท้าย ที่จะวางลง ก่อนที่จะหลับ ต า นอ น ในแต่ละวัน หลายคนคงเถียงว่าก็เล่นมือถือเหมือนๆกัน ทั้งคู่นั่นแหละ
แต่เราต้องยอมรับว่า มันต่างกัน การที่ฝ่ายหญิง เวลาส่วนใหญ่ไปกับมือถือ จนลืมและละเลยสิ่งที่ภรร ย า ควรทำ แน่นอนคงคิดว่า นั่นคืองานบ้าน หรือเรื่องทำกับข้าวล่ะสิ เรื่องเหล่านี้ สามารถขอให้สามีช่วยทำได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร แถมยังเป็นการสร้างกิจกรรม ในครอบครัวอีกด้วย ส่วนเค้าจะช่วยหรือไม่ช่วยคงเป็นอีกเรื่อง
แต่สิ่งสำคัญที่คุณผู้หญิงนึกไม่ถึง หรืออาจไม่เคยนึกก็คือ การสนทนาพูดคุยกัน ในครอบครัว ที่ขาดหายไป และความสนใจในตัวสามีของคุณก็พลอยหายไปด้วย คล้ายโลกนี้มีฉันกับเธอ(มือถือ)เท่านั้น ตัว อ ย่ า ง เช่น การออกไปเที่ยว หรือการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ก็เปลี่ยนจากการแสวงหา ร้านบรร ย า กาศดีดีเพื่อการลิ้มรส ความอร่อย และพูดคุยกัน อ ย่ า งมีความสุข
แต่กลับกลายเป็นการหาร้านเพื่อถ่ายภาพอาหาร และภาพของร้านหรูๆสวยๆ เพื่อลงเฟส ลง อิ น ส ตร าแกรม แล้วนั่งเฝ้ามือถือ รอเพื่อนๆกดไ ล ค์ และคอมเมนท์ โดยไม่ได้สนใจ คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า หรือแม้แต่จานอาหารแสนอร่อยที่สั่งมา ว่ายังมีตัวตนอยู่หรือไม่ บางคู่อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ กลับใช้วิธีพิมพ์ไลน์เรียกสามีทานข้าว ไปกันใหญ่ละ และพอนานวันเข้า ความสัมพันธ์ระหว่างคุณ และสามีก็จะเริ่มห่างออกไป
และโอกาสที่แฟนของคุณจะออกไปหาคนนอกบ้าน ก็เริ่มจะเป็นไปได้ โดยที่คุณเองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แบบนี้เค้าเรียกว่า เปิดประตูบ้านทิ้งไว้ แล้วผลักให้สามีเดินออกไปแบบไม่รู้ตัว ที่ว่ามานี้ก็เป็นแค่ตัว อ ย่ า งหลักๆเพียงบางส่วนเท่านั้น ที่ใครหลายคนไม่เคยคิด หรือมัวแต่เข้าข้างตัวเองกันซะมากกว่า
กลับมาว่ากันเรื่อง “มือที่สาม” ที่เราพุ่งเป้าทั้งหมด ไปที่ฝ่ายชายกันต่อ ซึ่งก็ไม่ผิดและก็เถียงไม่ออก มาถึงตรงนี้แล้วคงต้องยอมรับนะครับว่า โอกาสและความเท่าเทียมกัน ในการใช้ชีวิตหลังแต่งงาน ส่วนใหญ่แล้วมันไม่เท่ากันจริงๆ
ผู้ชายนั้นถือว่ามีโอกาสหรือจะเรียกว่าสามารถสร้างโอกาส ในการออกนอกบ้าน ได้มากกว่าฝ่ายหญิง ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงบริษัท งานเลี้ยงแผนก ต้อนรับลูกค้า งานเลี้ยงรุ่น นัดสังสรรค์กับเพื่อน และต่างๆนาๆ ก็ว่ากันไป แน่นอนว่าคงไม่ได้นัดกันไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางเป็นแน่ แต่…(ที่ไหนล่ะ?)
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือไม่ได้ตั้งใจแต่ อ ย่ า งใด แต่มันคือการสร้างโอกาส ของเหล่าสามีตัวดี ในการนำพาตัวเองเข้าไปสู่แหล่งหรือสถานที่ ที่สามารถพบเจอมือที่สามได้ อ ย่ า งไม่ ย า กเลย ทั้งๆ ที่ครอบครัว ก็มีความสุขดี มีเมียที่ดี มีลูกที่น่ารัก แต่ก็ยังพ ย า ย า มหาความสุขให้ตัวเองแบบเสี่ยงๆอยู่ตลอด จนสุดท้าย ชีวิตคู่ก็ต้องพังลงไป เพราะคุณเองใจไม่แข็งพอ
และที่ถามกันไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องที่ว่า เจ้าชู้คือธรรมชาติ ของผู้ชาย หรือแค่ความอ่อนไหวต่อ เ พ ศ ตรงข้าม อันที่จริงมันก็คำเดียวกันนั่นล่ะครับ ท่านชายที่เป็นผู้ชายแท้ๆ คงตอบ และยอมรับกัน อ ย่ า งเต็มใจ โดยไม่คิดโกรธเคืองกัน เลยซักนิดว่า เจ้าชู้ มันคือธรรมชาติ ของผู้ชายทุกคน และก็อ่อนไหวต่อ เ พ ศ ตรงข้ามด้วยกันทั้งนั้น จะมาก หรือน้อยนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับสติ และการยับยั้งชั่งใจ ของแต่ละคน
สุดท้ายจึงขอสรุปเรื่องราวทั้งหมด จากหัวข้อ เมียหลวง เมียน้อย เจ้าชู้ นอกใจ หรือว่า มือที่สาม มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือว่าตั้งใจกันแน่ว่า อันที่จริงแล้ว “เรื่องบังเอิญนั้น ไม่มีจริง” ตัวคุณทั้งคู่นั่นเอง ต่างร่วมกัน ทำให้มันเกิดขึ้น โดยที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ
ผู้ชาย น่าจะลดโอกาส การหาความสุขนอกบ้านลงบ้าง
ผู้หญิง อ ย่ า ให้น้อยหน้า รีบวางมือถือ แล้วกด cf ให้น้อยลงเถิด น่าจะดี 555
ขอบคุณบทความดีๆจาก : nararn.co