
1. ลดการทำงานหนักได้แล้ว
ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือน ภาคเอกชน อายุ 50 ถ้ายังไม่ขึ้นเป็นระดับผู้บริหาร
แสดงว่า…คุณคงไม่อยู่สายตาเจ้านายเท่าไรอย่าเสียเวลาไปกับการทำงานหนักเลยใช้เวลา
ดูแล สุ ข ภ า พ ตัวเองให้มากขึ้นจะดีกว่าถ้าคุณขึ้นเป็นระดับผู้บริหาร
ที่ต้องทำงานหนักเพื่อบริษัทก็จัดสรรเวลาให้กับครอบครัว และ สุ ข ภ า พ ตัวคุณเองบ้าง
ถ้าคุณเป็นข้าราชการ คุณมีความมั่นคง มีเวลาว่างพอสมควรแล้ว
ใช้เวลาดูแล สุ ข ภ า พ และ เตรียมงานอดิเรกหลังเกษียณได้เลยเช่นกัน…
ถ้าคุณทำงานอิสระ freelanceคุณสามารถทดลองเกษียณล่วงหน้าได้เลยถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ
คุณคงต้องเริ่มหาผู้ช่วยที่ไว้ใจได้มาช่วยคุณบริหารงานได้
โดยคุณสามารถออกมาดูแลห่างๆได้ แต่อย่าหวังว่า
ลูกหลานของคุณจะรับภาระนี้ปล่อยให้เขาเลือกทางเดินชีวิตเองเถิด
2. เลิกแคร์ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับคุณ
หน้ากากและหัวโขนจะอยู่กับคุณอีกไม่ถึงสิบปี หัดที่จะปล่อยวาง
และ ลดตัวตนของคุณลงบ้างกลับไปหาเพื่อนที่ดี
และจริงใจกับคุณจริงๆอ อกห่างจากคนที่ไม่จริงใจกับคุณหรือคนที่มาเพียง
เพื่อจะเอาประโยชน์จากตัวคุณ หรือเอาเปรียบคุณ
3. หยุดการใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย
ถ้าคุณเริ่มคิดเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ตอนใกล้เกษียณดูเหมือนว่าค่อนข้างจะสายไปแล้วนะ
อายุเกิน 50 เท่าไร คุณควรมีเงินสะสมที่ใช้หลังเกษียณต่อปี บวกไปอีก 10 ปี
เช่น อายุ 51 ควรมีเงินสะสม 10+1=11 ปีอายุ 52 ควรมีสะสม 12 ปี
อายุ 60 ควรมีเงินสะสม 20 ปีนั่นเป็นตัวเลขโดยประมาณว่า
คุณจะลาโลกตอนที่อายุ 80 ปีและ อย่าคาดหวังอะไรกับลูกๆ
ให้เป็นทุกข์มากนักในสมัยนี้ พวกเขาก็ต้องแบกรับภาระดูแลครอบครัวเขาเหมือนกัน
4. หยุดลังเลเกี่ยวกับการทำงานและการหางานใหม่
เมื่ออายุย่างเข้าวัย 50 คุณควรจะมีงานที่ มั่นคงและเป็นงานที่คุณรักจริงๆ
ได้แล้วเพราะถ้างานนั่นไม่ใช่ตัวตนของคุณมันก็คงจะสายเกินไปที่จะไปเริ่มใหม่จงอดทนทำต่อไป
เพราะคุณคุ้นชินกับมันแล้วถ้าจะหางานใหม่น่าจะเป็นงานที่คุณอยากทำหลังเกษียณ
หรือ งานอดิเรก ที่ช่วยเติมเต็มให้คุณหลังเกษียณ
5. หยุดทำ ร้ า ย ร่ า ง ก า ย ของคุณ
เช่น การเ มาค้าง , อดนอน, ทาน อ า ห า ร ไม่ดี กินโดยไม่ประมาณ
จงเริ่มหันกลับมาดูแล ร่ า ง ก า ย ตัวเองอย่างจริงจัง ด้วยการออกกำลังกายหลายๆ คนคงจะผลัดวัน
และเลี่ยงการออกกำลังกายมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาวแล้ว
แต่เมื่ออายุเลขขึ้นห้าหมายความว่า… ร่ า ง ก า ย
คุณกำลังจะร่วงโรยแล้วดังนั้นควรหันมาใส่ใจกับการออกกำลังกายจริงๆ เสียที
6. เลิกกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงของ ร่ า ง ก า ย
เช่น ตี นกา , ผมหงอก , เหนี ยงที่ค อ หรือริ้วรอยทั้งหลายริ้วรอยเหล่านี้เป็นตัวบอกถึงประสบการณ์
ที่คุณผ่านร้อนผ่านหนาวมา คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จงภูมิใจกับมัน ยอมรับมัน เติบโตอย่างสง่างาม
7. หยุดการเล่นอินเทอร์เน็ตที่มากเกินไป
คุณควรเริ่มทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันและมีคุณค่า ดีกว่าเสียเวลากับ Social Network
(ยกเว้นว่าคุณใช้ในการติดต่อเพื่อนฝูงเก่าๆหรือหาข้อมูลข่าว ส า ร ที่เป็นประโยชน์)เล่นได้
แต่ต้องมีการจำกัดเวลาเพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้คุณเสียเวลาและได้ประโยชน์น้อยสำหรับคนที่มีครอบครัว
กลับมาดูแลคู่ชีวิตและลูกของคุณให้มากขึ้นเขาเหล่านั้นเป็นคนที่หวังดี
กับคุณเต็มร้อยโดยไม่มีเงื่อนไขสำหรับชายโสด ไม่ง่ายที่จะหาคู่ชีวิตที่รักตัวคุณมากกว่า
กระเป๋าสตางค์ของคุณ หาหมามาเลี้ยงยังง่ายกว่าสำหรับหญิงโสด
คุณคงเคยชินกับชีวิตโสดแล้วและรู้ว่าอยู่คนเดียวสบายที่สุดแล้ว
8. หยุดคิดแทนลูกๆ
คุณไม่มีทางอยู่ดูแลลูกไปได้ตลอดชีวิต ดังนั้นต้องรู้จักวางมือ ลูกๆมีทางเดินของเขาหากคิดแทนทำแทนไปเสียหมด
คุณเหนื่อยตลอดแถมทำให้ลูกๆ ดูแลตัวเองไม่เป็นไปตลอดชีวิตวันหนึ่งที่คุณจากไปพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อยังไง..?
9. หยุดความโมโหที่ไรเหตุผล
ต้องลดลง ความโลภ ความโกรธ ความหลงต้องลดลงคุณธรรม
ความสุขุมต้องมากขึ้น ความเมตตา กรุณา ต้องมากขึ้น
หมั่นเตือนตัวเองว่า… อยู่ให้ลูกหลานเคารพรักมิใช่อยู่ให้ลูกหลานหวาดกลัว
จนไม่มีใครยอมเข้าใกล้จงชราอย่างมีคุณภาพ อย่าแก่เพียงเพราะอยู่นาน…!!
10. หยุดปิดกั้นจิตใจตัวเองที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ช่วงเวลาที่ผ่านมา คุณอาจจะพลาดอะไรหลายๆ อย่างไปเพราะการปิดใจตัวเองไว้
เพียงแค่ลองเปิดใจและเรียนรู้คุณจะพบว่าโลกมันกว้างกว่าที่คุณคิด
อายุเลขห้าไม่ได้เป็นอุปสรรค ต่อการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ รับฟังคนรุ่นใหม่บ้าง
จะได้เข้าใจสังคมปัจจุบันมากขึ้นและ ลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย
ที่มา : รักยิ้ม