
ในยามที่คุณรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง ท้อแท้ และต้องการกำลังใจจากใครสักคนแต่เหลียวแลไปทางไหน ก็มีแต่ความว้าเหว่ ดุจดังไร้ญาติขาดมิตร
แต่ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปตามวันเวลาที่หมุนผ่านเลย จนไม่อาจรอกำลังใจจากใครอื่นได้ จึงน่าจะดีกว่าถ้าหากเรารู้จักสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันและเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงเคล็ดลับสร้างกำลังใจให้ตัวเองต่อไปนี้ เป็นวิธีเล็กๆน้อยๆที่เชื่อว่า หากใครได้ลงมือทำแล้ว ก็จะช่วยให้มีกำลังใจขึ้นจริงๆ
1. ตั้งเป้าหมายเล็กๆ
หากมีภารกิจที่ต้องทำมากมายในแต่ละวัน ขอให้เริ่มต้นทำเรื่องง่ายๆ เล็กๆ ที่ไม่ต้องใช้เวลามากนัก ให้สำเร็จก่อน เช่นทำความสะอาดห้อง รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ เพราะเมื่อทำเสร็จ คุณจะได้มีกำลังใจที่จะเดินหน้าทำงานชิ้นใหญ่ต่อไป
2. เชื่อมั่น “ทำดี ได้ดี”
แม้บางครั้ง เราอาจเห็นคนทำ ชั่ ว แต่ได้ดี หรือคนทุจริตคอรัปชั่น กลายเป็นคนรวยที่มีคนนับหน้าถือตา จงอย่าท้อใจ แต่ขอให้เชื่อมั่นในเรื่องทำดีได้ดี ทำ ชั่ ว ได้ ชั่ ว ต่อไป เพราะการทำดีนั้นเมื่อเริ่มทำเราก็รู้สึกมีความสุข
เช่นเดียวกับเมื่อเริ่มทำ ชั่ ว ก็จะเริ่มมีความทุกข์ กลัวคนอื่นจะรู้ ดังนั้น สุข ทุกข์ จึงอยู่ที่ใจเป็นสำคัญเพราะฉะนั้น คุณธรรมดีๆที่คุณยึดมั่นในการดำเนินชีวิต เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียรความเมตตากรุณา ฯลฯ ย่อมนำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตอย่างแน่นอน ดั่งคำของพระพุทธองค์ที่ว่า “เหตุดี ผลย่อมดี”
3. เข้าร่วมกลุ่ม
การเข้าร่วมกลุ่มคนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างกำลังใจให้ตัวเองได้เป็นอย่างดีเช่น หากคุณเป็นคนอ้วน และต้องการลดน้ำหนัก ลองสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสคลับ ที่มีครูสอนอย่างถูกวิธีและอยู่ท่ามกลางคนอ้วนที่รักษา สุ ข ภ า พ เหมือนกัน ก็เป็นบรรยากาศที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
4. เอาชนะความกลัว
บ่อยครั้งที่ความกลัว ทำให้เสียโอกาสดีๆที่เข้ามาในชีวิตอย่างน่าเสียดายเพราะความกลัวทำให้เราหยุดอยู่กับที่ ไม่กล้าที่จะก้าวเดินต่อไปแต่ถ้าสามารถควบคุมหรือเอาชนะความกลัวให้หมดจากใจได้ จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นและมีกำลังใจที่พร้อมจะสู้กับทุกสิ่งทุกอย่าง
5. ให้อภัยตัวเอง
เมื่อทำผิดพลาด อย่าซ้ำเติมตัวเอง แต่ต้องรู้จักให้อภัยตัวเอง และถือเป็นบทเรียนที่ดีในการมุ่งมั่นต่อไปให้ถึงจุดหมายจำไว้ว่า แม้แต่บุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ก็ล้วนผ่านความผิดหวังมาแล้วทั้งสิ้นแต่พวกเขาเรียนรู้จากข้อผิดพลาด แล้วนำมาแก้ไขให้ดีขึ้นในอนาคต คุณเองก็ทำได้เช่นกัน
6. คิดถึงข้อดีของตัวเอง
ควรจดบันทึกข้อดีที่คุณมีอย่างน้อย 10 อย่าง เช่น เป็นคนจิตใจดี มีความเมตตากรุณา มีความอดทนยิ้มง่าย ฯลฯ ไว้ใกล้ตัว เพราะยามที่คุณรู้สึกหดหู่ สิ้นหวัง และต้องการกำลังใจอย่างยิ่งการหวนกลับไป อ่ า น สิ่งดีๆเหล่านี้บ่อยๆ ก็จะช่วยเรียกขวัญกำลังใจกลับคืนมาได้
7. ทำสิ่งพิเศษในแต่ละวัน
การทำเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น ออกกำลังกาย เดินเล่นในสวน รับประทาน อ า ห า ร ที่ชอบ ฟังเพลงโปรด อ่ า น หนังสือ นั่งสมาธิ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นกิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุขได้อย่างง่ายๆและเป็นเหมือนการชาร์จแบตเตอรี่ เพิ่มพลังชีวิตให้ตัวเองพร้อมเดินหน้าต่อไปอย่างมีความสุข
8. ยิ้มบ่อยๆ
รู้มั้ยว่า ทุกครั้งที่คนเรายิ้ม จะส่งผลให้โลหิตแดงที่ไปเลี้ยง ส ม อ ง มีอุณหภูมิลดลงทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายจากความตึง เ ค รี ย ด และการยิ้มยังทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีใน ร่ า ง ก า ย เพราะเมื่อคุณรู้สึกสบายกายสบายใจ ส ม อ ง จะ ห ลั่ ง ส า ร เอ็นโดรฟิน
หรือ ส า ร แห่งความสุข ทำให้อารมณ์แจ่มใส เบิกบานที่สำคัญ การยิ้มยังเป็นการเรียกขวัญกำลังใจให้เราสู้กับทุกสถานการณ์ได้อย่างไม่หวาดหวั่น
9. หยุดเปรียบเทียบ
ก่อนที่จะเริ่มต้นให้กำลังใจตัวเอง คุณจะต้องหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆเพราะการเปรียบเทียบมีแต่จะทำให้คุณรู้สึก แ ย่ ลงยิ่งเปรียบเทียบกับคนที่มีหลายสิ่งเหนือกว่า ก็จะยิ่งทำให้ แ ย่ หนักขึ้น
ทางที่ถูกนั้นควรหันมาดูตัวเอง ว่ามี ดีอะไรบ้าง แล้วทำในสิ่งดีๆ สิ่งที่ตัวเองชอบและถนัดซึ่งเมื่อผลลัพธ์ออกมาดี คุณก็จะมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น
10. หมั่นชมตัวเอง
การมองกระจกและพูดสิ่งที่คุณชื่นชมในตัวเอง หรือเขียนลงในสมุดบันทึก เป็นสิ่งที่ควรทำเพราะหลายครั้งที่เรามักกล่าวชมเชยผู้อื่นถึงความสำเร็จของเขา แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะชมตัวเองเมื่อประสบความสำเร็จดังนั้น ทุกครั้งที่ทำงานสำเร็จหรือทำสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จงพูดให้กำลังใจตัวเอง โดยไม่ต้องรอคำชมจากใคร
ที่มา : mgronline